“ธาตุอาหารพืช” ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต มีอะไรบ้าง?
สภาวะขาดแคลน: มีการเจริญของตายอด การแตกกิ่งและการออกผลไม่สมบูรณ์ ลำต้นแคระแกร็น ลักษณะของใบจะอ่อนและบางลง
ช่วยในการแบ่งเซลล์ ผสมเกสร การงอกของเมล็ด มีส่วนสำคัญต่อโครงสร้างของเซลล์พืช ช่วยในการลำเลียงอาหาร แคลเซียมช่วยในการปรับสมดุลทั้งกรดและด่างของพืช
ดอกและผลที่ออกมาจะแคระแกรนถึงแม้บางครั้งใบและลำต้นของพืชจะดูสมบูรณ์ก็ตาม
ถ้าขาดธาตุแมกนีเซียม ใบแก่จะเหลืองและร่วงหล่นเร็ว
ใบแก่จะมีวงด่างสีเหลืองหรือขาวขึ้น และ อาจมีจุดสีน้ำตาลขึ้นอยู่ในวงด่างด้วย
ดินที่ดีนอกจากจะต้องมีความร่วนซุย ไม่อัดแน่น มีน้ำและอากาศที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืชแล้ว ยังจะต้องมีธาตุอาหารที่เพียงพอสำหรับพืชด้วย ดังนี้
วิธีทำปุ๋ยหมัก แบบง่ายๆ เปลี่ยนขยะให้มีประโยชน์!
อาการขาดธาตุเหล็กจะแสดงออกทั้งทางใบและทางผล อาการเริ่มแรกจะสังเกตพบว่าที่ใบอ่อนโดยเฉพาะบริเวณเส้นใบจะมีสีเขียวปกติ แต่พื้นใบจะเริ่มมีสีเหลืองซีด ส่วนใบแก่ยังคงมีอาการปกติ ระยะต่อมาจะเหลืองซีดทั้งใบ ขนาดใบจะเล็กลงกว่าปกติ กิ่งแห้งตาย ส่วนอาการที่เกิดขึ้นกับไม้ผล คือผลผลิตจะลดลง ขนาดของผลเล็กและผิวไม่สวย การขาดธาตุเหล็กยังมีผลทำให้ยอดอ่อนเจริญเติบโตได้ช้ากว่าปกติ
สภาวะขาดแคลน: ใบอ่อนของพืช จะมีสีเหลืองและสีอ่อนจาง ในขณะที่เส้นใบยังคงมีเขียวสด ซึ่งส่งผลต่อการเหี่ยวเฉา ธาตุอาหาร และร่วงโรยของใบพืชในเวลาต่อมา
การขาดฟอสฟอรัสในพืช จะแสดงให้เห็นจาก การที่ใบพืชมีสีเขียวเข้มจัด ถ้าขาดรุนแรงใบจะผิดรูปร่างและแสดงอาการตายเฉพาะส่วน
จะเกิดอาการเหลืองที่ใบอ่อนก่อนแล้วจะกระจายไปทั่วทั้งต้น; อาการจะคล้ายกับการขาดไนโตรเจน แต่จะเกิดกับส่วนที่เติบโตใหม่ก่อน
ข้ามไปเนื้อหา เมนูหลัก เมนูหลัก
ในสภาวะขาดแคลน : ระบบรากของพืชไม่สามารถเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์ ใบแก่จะเปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสีม่วง หลังจากนั้นจะกลายเป็นสีน้ำตาล และหลุดร่วง ลำต้นแคระแกร็น และไม่ผลิดอกออกผล